เทคโนโลยี หรือ ใครกันแน่ที่ทำให้เด็กหาย


 ข้อเท็จจริงของปัญหาเด็กหายในสังคม  เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมานั้น พบว่ามีเด็กหายออกจากบ้าน  เพราะการเข้าไปใช้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสูงถึง 10 %  ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 4% 

       ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา  เป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่ได้รับฟังเรื่องราว การหายตัว  การหนีออกจากบ้านของเด็ก  รวมถึงสารพัดเหตุผล และปัญหาครอบครัว    พบว่า   ไม่มีครอบครัวใดสามารถระบุได้ว่า บุตรหลานของตนหายไปไหน  ใครพาไป   หลายครอบครัวมองว่าปัญหาเด็กหายเป็นความผิดของสังคม    ในขณะที่

สังคมบอกว่าครอบครัวต่างหากที่ผิด เมื่อไม่มีใครยอมรับ  สุดท้ายจึงต่างโยนความผิดไปให้ กระทรวงศึกษาธิการ  โดยบอกว่าหลักสูตรการศึกษาที่มีไม่ สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของเด็กในปัจจุบัน   จนถึงขณะนี้  ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่า สาเหตุที่แท้จริงของการหายตัวไปของเด็กนั้น เป็นเพราะครอบครัว  โรงเรียน หรือเป็นเพราะเทคโนโลยีกันแน่

 

 แต่หากถามว่า  ใครเล่าที่เป็นผู้หยิบยื่น  คอมพิวเตอร์   อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ให้กับเด็ก  คำตอบที่ได้คงมีแต่ “ผู้ใหญ่” ด้วยความหวังดีอยากให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากโลกกว้าง  โดยอาศัยอุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้เป็นแหล่งสร้างการเรียนรู้แห่งใหม่ของเด็ก  ที่คิดว่าจะทำให้เด็กได้รู้จักโลกภายนอกที่กว้างและไม่มีที่สิ้นสุด    แต่จะมีสักกี่คนที่บอกกับเด็กว่า สิ่งที่มีประโยชน์เหล่านี้ก็ยังมีโทษแอบแฝงอยู่  สุดท้ายแล้วคนที่ต้องเป็นแพะรับบาป ก็คือ เด็ก  ที่ไม่อาจบอกได้ว่า สิ่งที่ตนเองกำลังอยู่หรือผิด อาทิเช่น การแชทรูม  ซึ่งเป็นโปรแกรมพูดคุย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการติดต่อ สื่อสารของคนในยุคนี้   เด็กน้อยคนนัก ที่จะรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้มีเพื่ออะไร  เพราะสำหรับเด็กสิ่งเหล่านี้คือ “ความบันเทิง” และ “ความรัก” ที่ทางครอบครัวหามาเพื่อทดแทนเวลาที่ไม่เคยมีให้   ซึ่งสิ่งนี้เองที่กลายเป็นสื่อกลางทำให้เขาได้พบ  เพื่อนในจอคอมพิวเตอร์  หรือเพื่อนจากปลายสายโทรศัพท์  ที่พร้อมจะรับฟังปัญหาและเข้าใจเขามากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ เป็นแม่ 

 
       
เรื่องนี้ คงจะไม่ผิดถ้าบอกว่า พ่อ แม่ นี่แหล่ะ คือ คนที่ทำเด็กหาย  เพราะคุณเป็นคนพาเทคโนโลยีเหล่านี้มาให้บุตรหลานถึงในบ้าน  และคุณเองที่เป็นคนผลักดันให้เด็กต้องออกไปแสวงหา “ความรัก”  และ  “ความเข้าใจ” จากบุคคลแปลกหน้า   

     
ฉะนั้น  จงอย่าไปโทษใครเลย  ถ้าสักวันหนึ่ง บุตรหลานของคุณตัดสินใจเดินออกจากบ้านด้วยตนเอง  เพื่อไปแสวงหาความรัก ความเข้าใจจากบุคคลแปลกหน้า  เพียงเพราะคนที่บ้านได้กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาแล้ว

 

นางสาวธิติมา  หมีปาน
ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์  มูลนิธิกระจกเงา



อ่าน 950

 รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประเทศไทย (พ.ศ. 2554-2555 )
 เทคโนโลยี หรือ ใครกันแน่ที่ทำให้เด็กหาย
 ขอทานเด็ก...ธุรกิจบาป
 จดหมายฉบับสุดท้าย...กับความตายของลูกเรือประมงไทย (มูลนิธิกระจกเงา)
 ปลูกต้นไม้ ไม่ได้แปลว่า ปลูกป่า อย่าหลงทาง